วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2559

การจัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอม


                                               การจัดอิเล็กตรอนในอะตอม

       การจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานต่าง ๆ โดยใช้หลักดังนี้
       1.  จากเลขอะตอมทราบจำนวน  p  ซึ่งเท่ากับจำนวน  e-
       2.  หาจำนวนอิเล็กตรอนในแต่ละระดับพลังงานได้จากสูตร 
            จำนวน  e-  ในระดับพลังงาน =  2n2
       3.  จำนวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานนอกสุด (เวเลนต์อิเล็กตรอน) ของธาตุแต่ละชนิดจะมีได้ไม่เกิน 8 e-
       4.  อิเล็กตรอนในระดับพลังงานถัดจากวงนอกสุดของธาตุแต่ละชนิด มีได้ไม่เกิน 18 e-  (อาจเป็น  8 e- 
            หรือ  18 e-  ยกเว้นพวกแทรนซิชัน)
       5.  การจัดเรียงอิเล็กตรอนต้องจัดเรียงในระดับพลังงานที่ต่ำกว่าให้เต็มก่อน  แล้วจึงใส่ในระดับพลังงานที่สูงขึ้น

ตัวอย่าง    มีเลขอะตอม   = 11  หมายความว่า  มี  p     =   e-  =  11
              ระดับพลังงานที่ 1 (ชั้น K)   ของ  Na  มี   e-  =   2n2    =   2 x 12    =  2 e-
              ระดับพลังงานที่ 2  (ชั้น L)  ของ  Na  มี   e-  =   2n2     =    2 x 22  =  8 e-
              ระดับพลังงานที่ 3  (ชั้น M)   มี e-  ได้          =  2 x 32  =  18 e-
              แต่ของ  Na  บรรจุในระดับพลังงานที่ 1  และ 2  ไปแล้ว  10 e-  เหลืออีก  1 e- เท่านั้น 
เพราะฉะนั้น  ระดับพลังงานที่ 3  ของโซเดียมอะตอมจึงมีเพียง  1 e- 
                  ดังนั้นจึงเรียง  e-  ของ    ได้เป็น    2 , 8, 1

หมายเหตุ    ปกติอิเล็กตรอนที่อยู่รอบ ๆ นิวเคลียสวิ่งไปทุกทิศทุกทางมิได้วิ่งเป็นวงกลม  แต่เพื่อความสะดวก
                ในการศึกษา  จึงเขียนรูปออกมาในลักษณะวงกลม

       การจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลักของอะตอมที่มีอิเล็กตรอนจำนวนมาก ๆ  จะเกิดปัญหาในการจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานที่ 3  และระดับพลังงานที่ 4  การที่แต่ละระดับพลังงานมีจำนวนอิเล็กตรอนมาก  ทำให้เกิดปัญหาว่าอิเล็กตรอนเหล่านี้อยู่ในระดับพลังงานเดียวกันได้อย่างไร  จึงไม่ผลักกัน  นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาการจัดเรียงอิเล็กตรอนต่อไปอีกเพื่อแก้ปัญหาดัง กล่าว  และได้สรุปว่าแต่ละระดับพลังงานยังมีระดับพลังงานย่อย เรียกว่า Energy  Sublevel  และภายในระดับพลังงานย่อยยังประกอบด้วยออร์บิทัลอีกด้วย

 ระดับพลังงานย่อยแบ่งออกได้ดังนี้
         1.  ระดับพลังงานย่อย   s (sharp)          มีอิเล็กตรอนอยู่ได้ไม่เกิน  2
         2.  ระดับพลังงานย่อย   p (principal)      มีอิเล็กตรอนอยู่ได้ไม่เกิน  6
         3.  ระดับพลังงานย่อย   d (diffuse)         มีอิเล็กตรอนอยู่ได้ไม่เกิน  10
         4.  ระดับพลังงานย่อย   f (fundamental)  มีอิเล็กตรอนอยู่ได้ไม่เกิน  14

ออร์บิทัล  หมายถึง  บริเวณที่อยู่ของอิเล็กตรอนในแต่ละระดับพลังงานย่อย  ซึ่งแต่ละ
ออร์บิทัลจะมีอิเล็กตรอนได้ไม่เกิน  2  ตัว    

สัญลักษณ์แสดงจำนวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานย่อย
                                                                  จำนวนอิเล็กตรอนในระดับพลังงานย่อย
                                                              1 s2
                                           ระดับพลังงานที่                ชนิดของระดับพลังงานย่อย
การจัดอิเล็กตรอนในระดับพลังงานย่อยจะต้องจัดตามลำดับดังนี้
1s,  2s,  2p,  3s,  3p,  4s,  3d,  4p,  5s,  4d,  5p,  6s,  4f,  5d,  6p,  7s,  5f,  6d,  7p 
จะเห็นได้ว่าเราจะต้องจัดอิเล็กตรอนลงในระดับพลังงานย่อย  4s  ก่อน  3d,  5s  ก่อน  4d  ฯลฯ

       การเรียงลำดับพลังงานที่จะทำให้จำได้ง่ายขึ้นคือ  ทำเป็นแผนภาพออร์บิทัล  ดังตาราง  แล้วเติมอิเล็กตรอน
จากออร์บิทัลบนสุดก่อน  ออร์บิทัลต่อ ๆ มาให้เติมจากปลายลูกศรลงมาเรื่อย ๆ  เมื่อ ถึงหัวลูกศรก็ไปเริ่มใหม่จาก
ออร์บิทัลที่อยู่ปลายลูกศร  จะได้ลำดับพลังงานเหมือนข้างต้น

ระดับพลังงาน จำนวนระดับพลังงานย่อยหรือออร์บิทัลที่อยู่ในแต่ละระดับพลังงาน
                                       
                        ภาพจาก  http://www.google.co.th/imglanding?
ตัวอย่าง   จงจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลักและระดับพลังงานย่อย (Electron   configuration)
              โดยเรียงจากพลังงานต่ำ ไปหาสูงของธาตุอะลูมิเนียม  ( 13Al )    โพแทสเซียม (19K )  ,
               สแกนเดียม ( 21Sc)  และ  รูบิเดียม ( 37Rb)   
วิธีทำ       การจัดเรียงอิเล็กตรอนของ  Al  คือ  1s2   2s2   2p6   3s2   3p1     หรือ  2   8   3
              การจัดเรียงอิเล็กตรอนของ  K  คือ  1s2   2s2   2p6   3s  3p6   4s1   หรือ   2   8   8   1
   การจัดเรียงอิเล็กตรอนของ  Sc  คือ  1s2   2s2   2p6   3s2   3p6   4s2   3d1   หรือ  2   8   9   1
   การจัดเรียงอิเล็กตรอนของ  Rb  คือ  1s2   2s2   2p6   3s2   3p6   4s2   3d10   4p6  5s1  หรือ   2  8   18   8    1

 ข้อสังเกต
       จากการกระจายอิเล็กตรอนออกสู่ระดับพลังงานต่าง ๆ ของธาตุหมู่ IA-VIIIA ซึ่งเราเรียกธาตุพวกนี้ว่า 
ธาตุเรพรีเซนเตตีฟ
       1.  พบว่าทุกธาตุยกเว้น  He  มีเวเลนต์อิเล็กตรอน (อิเล็กตรอนในระดับพลังงานนอกสุด)  เท่ากับ
            หมายเลขหมู่ที่ธาตุนั้นสังกัดอยู่ในตารางธาตุ
       2.  พบว่าทุกธาตุมีจำนวนระดับพลังงาน  เท่ากับหมายเลขคาบที่ธาตุนั้นสังกัดอยู่ในตารางธาตุ  ดังนั้น
           ในกรณีที่
โจทย์กำหนดเลขอะตอมของธาตุใด ๆ ให้แล้วถามว่าธาตุนั้นอยู่หมู่ใด  คาบใด  ในตารางธาตุ 
ให้ใช้แนวคิดนี้
      1.  จากเลขอะตอม  ทราบจำนวนโปรตอน  แต่อะตอมอิสระมีจำนวนโปรตอนเท่ากับจำนวนอิเล็กตรอน
      2. เมื่อทราบจำนวนอิเล็กตรอนก็กระจายอิเล็กตรอนออกสู่ระดับพลังงานต่าง ๆ จะทราบ
          จำนวนเวเลนต์อิเล็กตรอน  และจำนวนระดับพลังงาน
      3.  ใช้หลักว่า   จำนวนเวเลนต์อิเล็กตรอน      =     หมายเลขหมู่
                           จำนวนระดับพลังงาน            =     หมายเลขคาบ

ตัวอย่าง   Ca  มีเลขอะตอม  20  อยู่ในหมู่ใด  คาบใดในตารางธาตุ
วิธีคิด      เลขอะตอม  =  20   แสดงว่ามี  p  =   e-  =  20
             กระจายอิเล็กตรอนได้เป็น    2, 8, 8, 2
             เวเลนต์อิเล็กตรอน   =  2   แสดงว่าอยู่หมู่   2
             มีจำนวนระดับพลังงาน = 4   แสดงว่าอยู่ในคาบที่ 4
             จำนวนระดับพลังงานย่อยในระดับพลังงานหลักหนึ่ง ๆ  จะมีได้เท่ากับลำดับที่ของระดับพลังงาน
             (กฎนี้ใช้ได้เฉพาะ 4  ระดับพลังงานแรก)   เช่นการจัดอิเล็กตรอนในระดับพลังงานย่อย 
             ต้องจัดอิเล็กตรอนลงในระดับพลังงานย่อยของระดับพลังงานต่ำๆ ก่อน  เมื่อเต็มแล้วจึงจัดอิเล็กตรอน
             ลงในระดับพลังงานย่อยของระดับพลังงานสูงขึ้นไป  แต่หลักอันนี้  ใช้ได้เฉพาะ  18  ธาตุแรก  เท่านั้น









วันพุธที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2559

นำเสนอหัวข้อเรื่องส่วนประกอบคอมพิวเตอร์

                                               ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์
          อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
      


        ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและเป็นยุคสารสนเทศ ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็สะดวกสบายไปเสียหมด จะติดตามข่าวสารต่างๆ ก็สะดวกสบายขึ้น การติดต่อสื่อสารก็ง่ายขึ้น ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ทุกอย่างนั้นสะดวกขึ้นเป็นอย่างมาก
        
      อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์หลักๆ
    รู้กันมั้ยว่าส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง คอมพิวเตอร์นั้นมีส่วนประกอบหลักๆ อยู่ 4 ส่วนด้วยกัน เริ่มจาก
1. โปรเซสเซอร์ (Processor) นั่น ก็คือหน่วยประผลกลางหรือที่รู้จักกันในนามของซีพียู (CPU) นั่นเอง หรือเรียกว่าซิป
2. หน่วยความจำ (Memory) หรือ RAM นั่นเอง ซึ่ง RAM นั้นเป็นหน่วยความจำหลักที่จำเป็นในการเก็บข้อมูลต่างๆ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าหน่วยความจำสำรองนั่นเอง
3. ส่วนอินพุต/เอาต์พุต (Input/Output) ก็คืออุปกรณ์ที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถสัมผัสและรับรู้สิ่งต่าง ๆ เช่น เครื่องอ่านบัตร คีย์บอร์ด เมาส์ สแกนเนอร์ และอุปกรณ์
4.  สื่อจัดเก็บข้อมูล  (Storage) นั่นก็คือสื่อที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล เช่น ฮาร์ดดิสก์ ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์
 
 
 
          จอภาพ หรือ monitor เป็น อุปกรณ์การแสดงผลที่สำคัญที่สุด จะเป็นส่วนที่ติดต่อกับผู้ใช้โดยตรง เพราะเราสามารถมองเห็นข้อมูลที่ที่แสดงผลได้โดยผ่านจอภาพของเรา
 
 
 
 
        เคส (case) คือ กล่องหรือโครงสร้างสำหรับเก็บประกอบอุปกรณ์ต่างๆ คอมพิวเตอร์ไว้ภายในนั้น ซึ่งขนาดของเคสก็จะแตกต่างกันออกไป แล้วแต่การใช้งานหรือความเหมาะสมในการใช้งานของแต่ละคน
 
 
 
 
 
       พาวเวอร์ซัพพลาย (Power Supply) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับชิ้นส่วนอุปกรณ์ คอมพิวเตอร์ 
 

         คีย์บอร์ดหรือแป้นพิมพ์ (Keyboard) เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะต้องมี เนื่องจากตัวคีย์บอร์ดใช้สำหรับการพิมพ์หรือป้อมข้อมูลต่างลงไปในเครื่อง คอมพิวเตอร์ ในตัวคีย์บอร์ดจะมีทั้งที่เป็นตัวอักษรที่เป็นภาษาหลักของแต่ละประเทศรวม ทั้งภาษาหลักอย่างภาษาอังกฤษอยู่ด้วย
 
 
 
 
        ฮาร์ดดิสก์ (Harddisk) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับบันทึกข้อมูลหรือเก็บข้อมูลของคอมพิวเตอร์ และเป็นอุปกรณ์ที่ติดมาพร้อมกันกับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์
 
 
 
 
 
       เมนบอร์ด (Main board) เป็นแผ่นวงจรไฟฟ้าแผ่นใหญ่ที่รวมเอาชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญๆ ไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุม การทำงานของ อุปกรณ์ต่างๆ ภายในพีชีทั้งหมด 

 
        ซีพียู (CPU) มีหน้าที่ในการประมวลผลหรือเรียกว่าโปรเซสเซอร์หรือชิป เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากเนื่องจากมีหน้าที่ในการประมวลผลจากการป้อน ข้อมูลลงไป
 
 
         การ์ดแสดงผล (Display Card) หลักการทำงานพื้นฐานของการ์ดแสดงผลจะเริ่มต้นขึ้น เมื่อโปรแกรมต่างๆ ส่งข้อมูลมาประมวลผลที่ ซีพียูเมื่อซีพียูประมวลผล เสร็จแล้ว ก็จะส่งข้อมูลที่จะนำมาแสดงผลบนจอภาพมาที่การ์ดแสดงผล จากนั้น การ์ดแสดงผล ก็จะส่งข้อมูลนี้มาที่จอภาพ ตามข้อมูลที่ได้รับมา การ์ดแสดงผลรุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาส่วนใหญ่ ก็จะมีวงจร ในการเร่งความเร็วการแสดงผลภาพสามมิติ และมีหน่วยความจำมาให้มากพอสมควร
 
 
 
  
       เมาส์ (Mouse) จะเป็นอุปกรณ์ที่ให้ความรู้สึกที่ดีต่อการใช้งาน ช่วยให้การใช้งานง่ายขึ้นด้วยการใช้เมาส์เลื่อนตัวชี้ไปยังตำแหน่งต่าง ๆ บนจอภาพ
 
 
 
 
     
แรม (RAM) เป็นหน่วยความจำของระบบ มีหน้าที่รับข้อมูลเพื่อส่งไปให้ CPU ประมวลผล
 
 
 
 
       CD Drive / DVD Drive / CD-RW Drive / DVD-RW Drive เป็นไดรฟ์ สำหรับอ่านข้อมูลจากแผ่นซีดีรอม หรือดีวีดีรอม ซึ่งถ้าหากต้องการบันทึกข้อมูลลงบนแผ่น
 
 
 
 
     CD-ROM / DVD-ROM ภาย ในซีดีรอม หรือดีวีดีรอมจะแบ่งเป็นแทร็กและเซ็กเตอร์เหมือนกับแผ่นดิสก์ แต่เซ็กเตอร์ในซีดีรอม หรือดีวีดีรอมจะมีขนาดเท่ากัน ทุกเซ็กเตอร์ ทำให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 


ความประทับใจคือมีความเข้มแข็ง  มีความอดทน และช่วยเหลือกันและกัน


ความประทับใจคือมีความอดทน และมีความเข้มแข็งกัน



ความประทับใจคือได้ใส่บาตรและมีความสุขในการใส่บาตร
ความประทับคือมึความสุขที่ได้อยู่ด้วยกัน และไม่ทิ้งกัน



ความประทับใจคือช่วยเหลือกัน ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร